วิธีเลือกใช้สกรูให้เมาะกับงานของเรา
รู้หรือไม่ว่า เคล็ดลับของการยึดวัตถุให้ติดแน่นไม่หลุดออกจากกันง่าย ๆ ไม่ได้เริ่มจากตอนที่เราขันสกรูและน็อต แต่เป็นตั้งแต่ตอนที่เราเลือกสกรูและน็อต เพราะการเลือกสกรูที่ใช่ ตรงกับการใช้งาน นอกจากจะช่วยให้ชิ้นงานของเราติดแน่นกว่าเดิม ยังช่วยลดความเสียหายของวัตถุอีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้สกรูที่ถูกต้อง เราควรจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
วัสดุที่เราจะยึดคืออะไร
การเลือกใช้สกรูที่ใช่ และช่วยให้ยึดติดวัตถุได้อย่างแน่นหนาและไม่หลวม อันดับแรกเราจะต้องพิจารณาที่วัสดุที่เราจะใช้ยึดว่าคืออะไร เป็นไม้ เหล็ก สเตนเลส ผนังปูน อิฐมอญ อิฐมวลเบา หรือวัสดุอื่น ๆ เพื่อจะได้เลือกสกรูที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา ซึ่งสกรูบางชนิดออกแบบมาเพื่อใช้งานกับวัสดุบางแบบเท่านั้น แต่สกรูบางชนิดก็สามารถใช้งานได้กับวัสดุหลากหลายประเภท ตัวอย่างเช่น
สกรูไม้ (Wood screw) สำหรับยึดไม้กับไม้ให้ติดแน่น ส่วนมากจะเป็นเกลียวหยาบ และด้านล่างของหัวสกรูจะเรียบแบน เพื่อไม่ให้ไม้เป็นรอย หรือเสียรูป
สกรูโลหะ (Metal screw) เป็นสกรูที่ทำมาจากโลหะหลากหลายชนิด สามารถใช้ยึดวัสดุได้หลากหลาย ทั้งไม้ โลหะ และคอนกรีต ขึ้นอยู่กับประเภทของสกรู
สกรูพลาสติก (Plastic screw) เป็นสกรูที่ผลิตจากพลาสติกเพื่อแก้ปัญหาการยึดวัตถุที่ไม่สามารถใช้สกรูโลหะได้ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น เฟอร์นิเจอร์บางชนิด จุดเด่นคือ มีน้ำหนักเบา ไม่นำไฟฟ้า และราคาไม่แพง
สกรูคอนกรีต (Concrete screw) เป็นสกรูที่ออกแบบมาเพื่อใช้ยึดวัตถุต่าง ๆ เข้ากับคอนกรีต เช่น ยึดราวบันได ชั้นวาง ซึ่งช่างจะต้องคำนวณน้ำหนักและการยึดติดอย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัย
การเลือกใช้สกรูที่ถูกประเภทการใช้งาน จะช่วยให้วัตถุติดแน่น พื้นผิววัตถุไม่เสียหาย และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
มีแรงสั่นสะเทือนหรือไม่
สิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงอีกอย่างในการเลือกใช้สกรูก็คือ แรงสั่นสะเทือน เพราะการที่สกรูเจอแรงสั่นสะเทือนนานเข้าก็จะทำให้สกรูคลายตัว และก่อให้เกิดอันตรายได้ เราจึงต้องเลือกขนาด ลักษณะเกลียว และประเภทของสกรูที่นำมาใช้อย่างรอบคอบ
โดยมากแล้วสกรูที่ใช้สำหรับเครื่องจักรและเครื่องยนต์ที่พบกับแรงสั่นสะเทือนอยู่เสมอ จึงมักจะเป็นสกรูเกลียวละเอียดที่มีความยาว หรือใช้น็อตตัวเมีย หรือแหวนสปริง ช่วยยึดติดวัตถุให้แน่นหนา ไม่คลายออกจากกันเมื่อเจอแรงสั่นสะเทือน
เลือกขนาดของสกรูให้เหมาะสมกับความหนาของวัตถุ
อย่าลืมพิจารณาเรื่องความหนาของวัตถุทุกครั้งในการเลือกสกรู เพื่อให้สกรูสามารถยึดติดวัตถุได้อย่างแน่นหนาและปลอดภัย โดยทั่วไปความยาวของสกรูจะต้องสามารถเข้าไปในวัตถุด้านล่างอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของความหนา ดังนั้น หากว่าชิ้นงานของเรามีความหนาอย่าลืมพิจารณาความยาวของสกรูประกอบด้วย
นอกจากเรื่องความหนาของวัตถุแล้ว เราควรจะพิจารณาเรื่องการรับน้ำหนัก โดยเฉพาะหากว่าเราใช้สกรูในการยึดบันได เฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวางของต่าง ๆ
ประเภทของสกรูที่เหมาะกับการใช้งาน
สกรูแต่ละแบบจะมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยงานบางชนิดจะมีสกรูที่ใช้เฉพาะเจาะจง อย่างสกรูติดเมทัลชีตที่ปลายสกรูมักเป็นดอกสว่าน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ตัวอย่างเช่น
สกรูหัวเหลี่ยมติดแหวน ใช้สำหรับชิ้นงานที่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ช่วยประหยัดเวลาในการใช้งาน ไม่ต้องซื้อแหวนรองเพิ่ม
สกรูหัวจม เหมาะกับงานที่ต้องการการยึดติดสูง อย่างชิ้นส่วนเครื่องจักร มักใช้งานร่วมกับน็อตตัวเมีย
สกรูหัวแบน เหมาะกับชิ้นงานที่เป็นไม้ พลาสติก หรือวัสดุที่เป็นแผ่นบาง ๆ
สกรูติดแหวนสปริง เหมาะกับชิ้นงานที่มีแรงสั่นสะเทือน ช่วยป้องกันการคลายตัว
นอกจากนี้ ยังมีสกรูหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ หากว่าเราไม่มั่นใจ สามารถสอบถามผู้ขายเพื่อการเลือกใช้สกรูที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อการใช้งาน
ใช้งานภายนอกหรือภายในอาคาร
นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การเลือกใช้สกรูจะต้องพิจารณาว่าใช้ภายในหรือภายนอกอาคารด้วย เพื่อจะได้เลือกวัสดุของสกรูที่เหมาะสม ไม่เป็นสนิม และไม่ถูกกัดกร่อน จนทำให้ประสิทธิภาพลดลงไป
ในกรณีที่ใช้ภายนอกอาคารทั่วไป ให้เราเลือกสกรูที่ทำจากสเตนเลส ไทเทเนียม หรือเคลือบสังกะสี ซึ่งทนทานต่อการเกิดสนิม และหากว่าอาคารของเราอยู่ใกล้ทะเล วิธีการเลือกสกรูของเราก็ต้องพิจารณาเรื่องการถูกกัดกร่อน และการทนความร้อนประกอบด้วย แนะนำให้ใช้สกรูที่ทำจากสเตนเลส ไทเทเนียม สังกะสี เพราะเป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี
2.png){kind=icon}
