เครื่องเป่าลมคืออะไร

เครื่องเป่าลม หรืออีกชื่อที่เรียกกันทั่วไปคือ ‘โบลเวอร์’ เป็นเครื่องมือที่จําเป็นในหลายๆงาน ช่วยให้แรงเป่าที่ทรงพลังและควบคุมทิศทางได้ ไม่ว่าจะใช้ในการทําสวน ก่อสร้าง หรืองานทําความสะอาดประจําวัน ประโยชน์ของเครื่องเป่าลมนั้นมีหลากหลายแบบมาก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องเป่าลม

ประเภทของ เครื่องเป่าลม
เครื่องเป่าลมมีหลายประเภท ที่มีฟังก์ชันการทํางานแตกต่างกัน:

Centrifugal-Blowers

1.เครื่องเป่าลมแรงเหวี่ยง (Centrifugal Blowers): เป็นเครื่องเป่าลมขนาดใหญ่ที่ใช้แรงเหวี่ยงแบบหลายใบพัด ใช้แรงจากศูนย์กลางที่เกิดจากการหมุนของจานพร้อมใบพัด เพื่อเพิ่มความเร็วและปริมาตรของกระแสอากาศ มักใช้ในอุตสาหกรรมสําหรับระบบปรับอากาศ ระบายอากาศ ทําความร้อน และเครื่องดูดฝุ่น

Positive-Displacement-Blowers

2.เครื่องเป่าลมแรงอัดแน่น (Positive Displacement Blowers): มีใบพัดเพื่อดักจับอากาศแล้วผลักออกจากเครื่องเป่าลม สามารถให้ประสิทธิภาพในการเป่าลมสูง โดยส่วนมากใช้ในโรงงานเคมี โรงบําบัดน้ำเสีย และระบบลําเลียงทางอากาศ

Axial-Blowers

3.เครื่องเป่าลมแบบอากาศไหลผ่านแกน (Axial Blowers): มีการทํางานคล้ายท่อทรงกระบอกใบพัดเป็นเกลียว อากาศเข้าและออกจากใบพัดในแนวแกน โดยส่วนมากใช้สําหรับระบายความร้อน เช่น ตัวระบายความร้อนน้ำ และ การทำความเย็นเช่นคอนเทนเซอร์ระบายความร้อน

Leaf-Blowers

4.เครื่องเป่าใบไม้ (Leaf Blowers): เป็นอุปกรณ์พกพาใช้เป่าใบไม้และขยะอื่นๆ ให้อยู่เป็นกอง มีทั้งแบบพกพา แบบสะพายหลัง และแบบลากตามหลัง

Electrostatic-Blowers

5.เครื่องเป่าลมไอออไนซ์กำจัดไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Blowers): ใช้ในระบบปรับอากาศของรถยนต์และอาคาร เพื่อปรับปรุงการหมุนเวียนอากาศและลดการใช้พลังงาน

Gas-Blowers

6.เครื่องเป่าลมแก๊ส (Gas Blowers): ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง มักใช้ในโครงการกลางแจ้งขนาดใหญ่เนื่องจากมีแรงเป่าสูงและพกพาได้

Electric-Blowers

7.เครื่องเป่าลมไฟฟ้า (Electric Blowers): ใช้พลังงานไฟฟ้า มักมีพลังน้อยกว่าแบบแก๊สแต่เงียบและบํารุงรักษาง่ายกว่า

เครื่องเป่าลมต่างประเภทมีคุณสมบัติร่วมกันดังนี้:

แหล่งพลังงาน: ดังกล่าวข้างต้น เครื่องเป่าลมใช้พลังงานจากไฟฟ้าหรือแก๊ส แบบแก๊สมีพลังมากกว่า ส่วนไฟฟ้าเงียบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า
พกพาได้: แบบถือมือน้ําหนักเบาและใช้งานง่าย แบบสะพายหลังมีความสมดุลระหว่างพลังและพกพาได้ แบบเดินตามมีพลังมากที่สุดแต่หนักที่สุดด้วย
ระดับเสียง: เครื่องเป่าลมส่วนใหญ่ทําเสียงดัง โดยเฉพาะแบบใช้แก๊ส แบบไฟฟ้าเงียบกว่า
ควบคุมความเร็ว: หลายรุ่นมีการปรับความเร็วได้ เพื่อควบคุมกระแสอากาศตามงาน
ระดับมลพิษ: แบบใช้แก๊สปล่อยมลพิษ ในขณะที่ไฟฟ้าไม่มีมลพิษโดยตรง

วิธีใช้เครื่องเป่าลม

วิธีการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามประเภท แต่นี่คือขั้นตอนทั่วไป:

ยึดความปลอดภัยเป็นหลัก: ใส่แว่นตาและที่ป้องกันเสียงที่หูเสมอ ถ้าหากใช้แบบแก๊สควรใส่หน้ากากเพื่อป้องกันสูดดมไอเสีย
เตรียมเครื่องเป่าลม: ถ้าเป็นแบบแก๊สตรวจสอบระดับเชื้อเพลิงและเติมหากจําเป็น สําหรับไฟฟ้าตรวจสอบแบตเตอรี่หรือสายไฟ
เปิดเครื่อง: การสตาร์ทเครื่องขึ้นกับระบบของรุ่น บางรุ่นอาจต้องกดปุ่มเริ่มทํางาน บางรุ่นเปิดเครื่องโดยการดึงเชือก หรือสับสวิตช์
ใช้เครื่องเป่าลม: เล็งเครื่องไปในทิศทางที่ต้องการเป่า ใช้การเคลื่อนไหวเป่าซ้ายขวาแบบกวาดและพยายามเป่าสิ่งต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน ปรับความเร็วตามความจําเป็น
ทําความสะอาด: เมื่อเสร็จงานแล้วให้ปิดเครื่องทุกครั้ง ทําความสะอาดตามคําแนะนําของผู้ผลิตที่แปะไว้ที่เครื่อง

Visitors: 788,860