หน้าแรก > บทความ > เลือกเร้าเตอร์หรือทิมเมอร์แบบไหนให้เหมาะกับงาน

เลือกเร้าเตอร์หรือทิมเมอร์แบบไหนให้เหมาะกับงาน

เครื่องเซาะไม้เป็นเครื่องมือสำคัญในงานไม้ที่ใช้สำหรับลบมุม ตกแต่งขอบไม้ สร้างร่อง หรือขึ้นลายตามแบบต่างๆ โดยเฉพาะงานเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นงานตกแต่งภายใน การมีเครื่องเซาะไม้ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้งานขออกมาเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพมากขึ้น

เครื่องเซาะไม้คืออะไร

เครื่องเซาะไม้ หรือที่ช่างไม้บางคนเรียกว่า Router หรือ Trimmer คืออุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำร่อง ลบมุม หรือแต่งลายบนผิวไม้เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำมากขึ้น โดยทำงานร่วมกับดอกเซาะไม้หลากหลายประเภท

เร้าเตอร์ คืออะไร

เร้าเตอร์เป็นเครื่องเซาะไม้ที่มีกำลังสูง ใช้กับงานเซาะร่องที่ต้องการความแม่นยำลึกและต่อเนื่อง เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ งานบิวท์อิน หรือการผลิตจำนวนมาก

ทริมเมอร์ คืออะไร

ทริมเมอร์เป็นเครื่องเซาะไม้ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับงานละเอียด งานลบมุม หรือขัดแต่งชิ้นงานไม้ DIY ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และควบคุมได้ดี

เร้าเตอร์ vs ทริมเมอร์: เลือกอะไรดี

หากทำงานไม้ขนาดใหญ่ ต้องการความแม่นยำลึก และมีการใช้งานต่อเนื่อง การเลือกเร้าเตอร์จะเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการความคล่องตัว ใช้งานทั่วไป หรืองาน DIY ทริมเมอร์จะตอบโจทย์มากกว่า

วิธีเก็บรักษาเร้าเตอร์ และ ทริมเมอร์

1. ทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง
เป่าฝุ่นด้วยลม: ใช้เครื่องเป่าลมเบาๆ เป่าฝุ่นที่สะสมในซอกมุมของตัวเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณมอเตอร์ ฐานเซาะ และรูระบายอากาศ
เช็ดคราบเรซิน/ฝุ่นไม้: ใช้ผ้าแห้งหรือชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบเหนียวและเศษไม้ที่ติดอยู่บริเวณตัวเครื่อง และฐานอลูมิเนียม
อย่าใช้น้ำโดยตรง: ห้ามล้างหรือฉีดน้ำใส่ตัวเครื่องเด็ดขาด อาจทำให้ระบบไฟฟ้าภายในเสียหาย
2. ตรวจสอบความแน่นของหัวจับดอกเซาะ (Collet)
หมั่นเช็กว่า collet ยังแน่นและไม่มีคราบฝุ่นอุดตัน
ถอดดอกออกทุกครั้งหลังใช้งาน ป้องกันการฝืดหรือฝังแน่นในระยะยาว
หากมีสนิมให้ใช้น้ำยากันสนิมหรือจาระบีบางๆ หยดเคลือบไว้
3. เก็บไว้ในกล่องหรือกระเป๋าอย่างดี
เก็บใส่กล่องที่มาพร้อมเครื่อง (เช่น L-BOXX ของ BOSCH, กล่อง PACKOUT ของ Milwaukee หรือ MAKPAC ของ Makita)
หากไม่มีกล่อง ให้เก็บในตู้หรือชั้นที่แห้ง ไม่อับชื้น และห่างไกลจากฝุ่น
ห้ามวางกดทับกันหลายชั้น อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในบิดงอหรือแตกหัก
4. หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนจัด/อับชื้น
ไม่วางใกล้แดดหรือในรถยนต์ที่ร้อนจัด
ไม่เก็บใกล้แหล่งน้ำหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือพื้นคอนกรีต
ความร้อนจัดจะทำให้พลาสติกภายนอกกรอบ ส่วนความชื้นทำให้โลหะภายในขึ้นสนิม
5. ดูแลแบตเตอรี่ (เฉพาะรุ่นไร้สาย)
ถอดแบตออกทุกครั้งหลังใช้งาน และไม่ทิ้งค้างไว้ในเครื่อง
เก็บแบตไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนและไม่เย็นจัด
ควรชาร์จแบตอย่างน้อยเดือนละครั้ง หากไม่ได้ใช้นาน
ใช้ที่ชาร์จของแท้เท่านั้น เพื่อป้องกันไฟเกินหรือแบตเสื่อมก่อนเวลา
6. หยอดน้ำมันหล่อลื่นบางจุดเป็นระยะ
สำหรับรุ่นที่มีชิ้นส่วนโลหะสัมผัสกัน เช่น เพลา, กลไกปรับความสูง หรือแกนเลื่อนฐาน
ใช้น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ (WD-40 หรือ 3-IN-ONE) หยอดเล็กน้อย ไม่ให้เปื้อนวงจรหรือมอเตอร์
7. นำเครื่องทดสอบเดือนละครั้ง แม้ไม่ได้ใช้งาน
เสียบไฟ/ต่อแบต แล้วสตาร์ทเบาๆ เพื่อให้ระบบหมุนคลายการฝืดหรือชิ้นส่วนฝังแน่น
ฟังเสียงการหมุน ถ้ามีเสียงผิดปกติให้หยุดทันทีและตรวจสอบ
8. ระวังสายไฟและปลั๊ก (สำหรับรุ่นไฟฟ้า)
ม้วนสายไฟอย่างถูกวิธี อย่าดึงกระชาก
ไม่พับสายมุมแหลม หลีกเลี่ยงการพันรอบเครื่องแน่นๆ
หากสายชำรุดควรเปลี่ยนโดยช่างเท่านั้น

Visitors: 836,481